วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

มะขาม

มะขาม

มะขาม




มะขาม เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา แต่เข้าสู่ประเทศไทยมานานกว่า 700 ปี กระทั่งมีความเชื่อของคนไทยมาแต่โบราณว่าปลูกต้นมะขามไว้ทางทิศตะวันตกของบ้านจะช่วยให้มีแต่คนเกรงขาม เราสามารถจำแนกมะขามออกเป็นมะขามเปรี้ยวและมะขามหวาน พันธุ์มะขามหวานที่นิยมกินฝักสด เช่น พันธุ์สีทอง น้ำผึ้ง ขันตี หมื่นจง ส่วนมะขามเปรี้ยวมักนำไปทำมะขามเปียก สามารถเก็บไว้ได้นาน ใช้ปรุงอาหารให้รสเปรี้ยวกลมกล่อม
ยอดอ่อนมะขามให้รสเปรี้ยว นิยมนำไปปรุงอาหาร มีวิตามินซีสูงกว่าส่วนอื่น ๆ ช่วยปกป้องตาจากสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เลนส์ตาขุ่นมัว และช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น เนื้อมะขามมีกรดอินทรีย์อย่างกรดทาร์ทาริกและกรดซิตริก ซึ่งมีฤทธิ์ระบายและลดความร้อนของร่างกาย ใครมีปัญหาท้องผูกบ่อย ๆ ให้ลองกินมะขามสุกสัก 3-4 ฝัก แล้วดื่มน้ำอุ่นตามเยอะ ๆ รับรองเห็นผล แถมยีงช่วยขับเสมหะและลดอาการไอด้วย แคลเซียมนั้นมีมากที่ในฝักอ่อนและมีปริมาณรองลงมาในมะขามเปียกและยอดอ่อน ส่วนมะขามสุกจัดจนเป็นมะขามเปียกนั้นจะมีเส้นใยอาหารสูง
สรรพคุณทางยาที่มีมาแต่โบราณของมะขาม เช่น เนื้อในฝักแก่แก้อาการท้องผูก แก้ไอ ขับเสมหะ เป็นยาระบาย เนื้อมะขามเปียกข้น ๆ ผสมเกลือ กินขับเลือดที่ตกค้างของหญิงหลังคลอด เมล็ดแก่คั่วสุกกะเทาะเปลือก แช่น้ำเกลือให้พอง กินเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนหรือบดเป็นผงละลายน้ำ ปิดแผลในคนเป็นโรคเบาหวาน ใบแก่เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ ขับเลือดและลมในลำไส้ แก้โรคบิด เปลือกต้นต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ท้องเดิน หรือใช้อมแก้เหงือกบวม แก้ฟันผุ
คุณสาว ๆ ที่อยากมีผิวกายขาวผุดผ่องแบบไม่เปลืองเงิน ให้ลองใช้มะขามเปียกสักหนึ่งกำมือ แช่ในนมสดให้เส้นใยอ่อนนุ่มลง อาจใส่น้ำผึ้งหรือขมิ้นเพิ่มลงไป เพื่อบำรุงผิวให้กระจ่างใสและชุ่มชื้นยิ่งขึ้น แล้วนำมาขัดผิวกายเบา ๆ เส้นใยมะขามและกรดเอเอชเอ (Alpha hydroxy acid) ซึ่งเป็นกรดผลไม้ที่มักใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง จะช่วยทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป แต่ควรดึงเส้นใยแข็งที่หุ้มเนื้อมะขามอยู่ออกก่อนเพราะอาจทำให้ระคายเคืองผิวหรือเกิดบาดแผลได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น